ข้อตกลง COP26 ที่อินเดียละเลย ในขณะที่เดลีกำลังสำลักฝุ่นควันที่ไม่มีท่าทีจะลดลง
ในขณะนี้เมืองหลวงของอินเดียอย่าง เดลี กำลังเผชิญกับปัญหาฝุ่นควันเป็นพิษอย่างหนัก และทางอินเดียเองก็ถูกกล่าวหาว่าเพิกเฉยต่อ ข้อตกลง COP26 ว่า ทั่วโลกจะช่วยกันลดการปลดปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาไหม้ถ่านหิน
หลายวันมานี้สภาพอากาศของเดลีแย่มาก ตามรายงานข่าวของ Rajini Vaidyanathan มันอยู่ในระดับรุนแรงไปจนถึงอันตราย และความรุนแรงของมันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆเลย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทางการของเดลี ออกมาประเทศให้โรงเรียนหยุดเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และกล่าวอีกว่ามันอาจจะถึงขึ้นที่ต้องล็อกดาวน์เดลี เพื่อที่จะปรับคุณภาพอากาศในขณะนี้ให้ดีขึ้น
ในทุกฤดูหนาวที่มีอุณหภูมิลดลงนั้น เมืองต่าง ๆของอินเดียจะมีปริมาณฝุ่นควันเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการเผาพืชผลทางการเกษตร การเผาไหม้อุตสาหกรรม การเผาไหม้จากเครื่องยนต์ รวมถึงการก่อไฟเพื่อให้ความอบอุ่น แต่สำหรับเดลี และเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือไม่จำเป็นต้องรอถึงฤดูหนาว เพราะสภาพอากาศดูเหมือนจะอยู่ในขั้นที่เป็นพิษแทบตลอดปี
จากการประชุมผู้นำประเทศใน COP26 ที่ผ่านมานั้น มีหลายประเทศออกมาเรียกร้องให้อินเดีย และจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้ถ่านหินมากเป็นอันดับต้น ๆของโลก ให้ยุติการเผาไหม้ถ่านหินลง แต่สุดท้ายทั้งสองประเทศก็ทำได้แค่เปลี่ยนจากการยุติการใช้ถ่านหิน เป็นตกลงที่จะลดการใช้ถ่านหินเท่านั้น
รัฐมนตรีประจำกระทรวงสิ่งแวดล้อมของอินเดียออกมาบอกว่า พวกเขาเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา และมีการใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงมากถึง 70% ของประเทศ การที่จะให้ยุติการใช้ถ่านหินไปเลยนั้นเป็นเรื่องยาก และยังบอกอีกว่าสำหรับการรักษาสมดุลการใช้ถ่านหิน และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนั้น อินเดียสามารถรักษาสมดุลทั้งสองได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตามชาวอินเดียบางคน อย่าง นายยาดาฟ เชื่อว่า ที่สภาพอากาศของทั่วโลกแย่ลงอย่างทุกวันนี้ก็เพราะการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลืองของประเทศที่พัฒนาแล้ว
ทางพรรคฝ่ายค้านของอินเดียได้ออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า “อินเดียต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ทั้งต่อประเทศอื่น ๆ และในประเทศของตัวเองด้วย”
นอกจากนี้หลายคนออกมาให้ความเห็นว่า ขณะนี้ผู้คนหลายล้านของอินเดียต้องเผชิญกับการระบาดของโรคโควิด 19 ที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนในประเทศ โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจ และดูเหมือนว่าเรื่องเหล่านั้นจะสำคัญต่อความเป็นอยู่ของพวกเขามากกว่าการเลือกใช้พลังงานสะอาดที่ทั่วโลกกำลังสนับสนุนกันในขณะนี้มาก
ที่มา bbc